ความฝันที่หล่นหาย


 ความฝันที่หล่นหาย
 เป็นเรื่องน่าประหลาดใจเพียงใด เมื่อมีใครบางคนถามคุณว่า อะไร คือ ความฝันในชีวิตของคุณ ?
แต่คุณตอบคำถามนี้ไม่ได้ ! เพราะเหตุใด ?อาจเป็นเพราะคุณไม่รู้จริง ๆ ว่าความฝันของตัวเอง คือ อะไร หรือ เป็นเพราะคุณไม่มีความฝันในชีวิตหลงเหลืออยู่อีกแล้ว หรือ เป็นเพราะคุณไม่กล้าที่จะฝัน
หรือ เป็นเพราะวิถีชีวิตที่ผ่านมา ทำให้ความฝันของคุณหล่นหายไประหว่างทางเสียแล้ว !!

เป็นความจริงที่น่าประหลาดใจ เพราะทั้งๆ  ที่ความฝันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของทุกคนความฝันเป็นเครื่องนำทางให้ชีวิตก้าวเดินไปสู่จุดหมายที่ต้องการ เหมือนดั่งหางเสือที่กำหนดทิศทางให้เรือแล่นไป  แต่ในความเป็นจริงกลับปรากฏว่าหลายชีวิตดำรงอยู่โดยปราศจากความฝันหลายคนมองไม่เห็นจุดหมายปลายทางในชีวิตของตนเอง ในขณะที่ผู้คนอีกเป็นจำนวนไม่น้อยไม่กล้าที่จะคิดฝันหรือตั้งความหวังอะไรกับชีวิตอีกต่อไป

มนุษย์เราย่อมจะต้องมีความฝันด้วยกันทุกคน ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่าในปัจจุบัน แต่อาจเป็นเพราะเรามองไม่เห็นเส้นทางที่จะนำพาชีวิตของตนเองไปสู่จุดหมายปลายทางแห่งความฝันที่ต้องการได้อย่างไร  จึงทำให้หลายคนทิ้งความฝันของตนเองไปอย่างน่าเสียดาย หลายคนก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความฝันใดๆ ในขณะที่อีกหลายคนได้พบความจริงจากประสบการณ์ในชีวิตว่า ยิ่งอายุการทำงานมากขึ้นเท่าใด ความฝันที่เคยมีก็ยิ่งเล็กลงเท่านั้นจนในที่สุดก็ไม่กล้าคิดกล้าฝันอะไรอีกต่อไปให้เวลากับตัวเองสักนิด ให้โอกาสกับตัวเองสักครั้ง ค้นหาความฝัน ที่อาจหลบซ่อนอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ แล้วคุณจะพบว่าชีวิตนี้ช่างสวยงามและมีความหมายมากมายเหลือเกินเมื่อมีความฝัน...ความหวัง...เปี่ยมล้นอยู่ในใจ

ลองพิจารณาเรื่องราวเหล่านี้ แล้วบอกตัวเองได้ไหมว่า 
มีสิ่งใดบ้างเป็น ความฝันที่หล่นหายไป? ของคุณ

-ชีวิตต้องเป็นอะไรที่มากกว่าการทำงานสัปดาห์ละ 5-6 วันเพื่อที่จะได้สนุกกับวันหยุดเพียง 1-2 วัน เท่านั้น

-ความฝันของคุณสลายลง... เมื่อหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาของคุณบอกว่า"คนอย่างคุณซึ่งไม่มีปริญญาติดตัว ไม่มีโอกาสที่จะก้าวหน้าไปให้ไกลกว่านี้ได้อีกแล้วไม่ว่าคุณจะขยันขันแข็ง หรือ ทำงานในหน้าที่ได้ดีสักเพียงใดก็ตาม"

-สามารถกำหนดรายได้ที่ตนเองพอใจ ตามความสามารถและความตั้งใจที่ทุ่มเทให้กับงาน แทนที่จะถูกกำหนดรายได้ตามความพอใจของคนอื่นเหมือนดังเช่นที่เป็นอยู่

-บุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงเพียงใด เขาก็ยิ่งมีเวลาและความเป็นอิสระของตนเองน้อยลงเพียงนั้น นายแพทย์ทุกคนถูกชิงตัวออกไปจากชีวิตครอบครัวด้วยอาชีพการงานของเขานั่นเอง ทำไมเราจึงจะต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับลูกๆในเมื่อเราต้องการทั้ง 2 สิ่งนี้พร้อม ๆ กัน

-เราไม่ปรารถนาชีวิตที่แขวนอยู่บนปลายเส้นด้ายโดยมีมือของใครบางคน(นายจ้าง หรือ ผู้บังคับบัญชา) จับด้ายเส้นนั้นไว้อย่างกระชับมั่นแต่ขณะเดียวกันเราก็หวั่นเกรงกับการที่จะตัดเส้นด้ายนั้นด้วยตัวเองเสรีภาพที่จะได้ควบคุมการดำเนินชีวิตของตนเอง เป็นอิสระจากกำหนดเวลาที่คนอื่นตั้งไว้มีอิสระที่จะทำหน้าที่พ่อแม่ได้อย่างเต็มเวลาสำหรับลูกๆ ของเรา ความมีเสรีภาพเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม  เป็นสิ่งที่พิเศษสุดและหาค่ามิได้อย่างแท้จริงความฝันที่จะได้เป็นผู้กุมบังเหียนชีวิตของตนเองไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร ไม่ว่าจะเป็นของบริษัท หรือ รัฐบาล แต่ละปีที่ผ่านไป คุณทำงานมากกว่า 40 สัปดาห์ๆ ละ 40 ชั่วโมง ได้รับรายได้เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตอยู่รอดเท่านั้น น่าจะมีช่องทางหรือโอกาสอะไรสักอย่างที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างอนาคตตามที่ตนเองใฝ่ฝันได้

ความฝันที่จะมีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่...

-ขาดแคลนเงินลงทุนที่จำเป็นต้องใช้ในการเริ่มต้นธุรกิจ
-ขาดเครื่องมือที่จะสนับสนุนให้ความฝันกลายเป็นความจริงได้
-ขาดความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่จะประกอบธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ
-ขาดระเบียบวินัยในตนเอง หรือเป็นอัมพาตไปด้วยความกลัวที่จะถูกปฏิเสธจากคนอื่น
-ต้องการรายได้มากพอที่จะทำให้ความฝันของตนเองเป็นความจริงได้ 
-ต้องการอิสรภาพในด้านต่างๆ และความมั่นคงระยะยาวในชีวิต 
-มีธุรกิจเป็นของตนเอง และมีมรดกตกทอดให้กับลูกหลาน

หากไม่กล้าแม้แต่จะคิด จะฝัน  ชีวิตก็ไม่มีวันไปถึงสิ่ง นั้นได้
(ขอขอบคุณเจ้าของบทความดีๆ บทความนี้ จากใจครับ)




เข้มแข็งและมีเกียรติ
+อนันท์  ณ.  ลำน้ำโขง


Services
สามารถโทรสอบถามปัญหาต่างๆ ในการทำธุรกิจได้ที่เบอร์โทรศัพท์
082-840-3321  อนันท์ครับ
e-mail: eagle_three@live.com

Leave a Reply